หน้าเว็บ

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับการแต่งผิวหน้าให้นวลเนียน



วันนี้มาพูดถึงการแต่งหน้ากันดีกว่า
เพราะเราชอบแต่งหน้า
ผู้หญิงส่วนเป็นอย่างที่ว่าคือ
ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง

คุณอาจคิดว่าผิวของคุณไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณต้องใช้แป้ง หรือรองพื้นแต่งหน้า หากทว่าการแต่งหน้าให้ดูดีที่สุด มักขึ้นอยู่กับการอวดโฉมผิวสวยอยู่เสมอ          คุณต้องการเป็นเจ้าของผิวสวยผุดผาดสะดุดตา ไม่ว่าผิวของคุณจะมีปัญหามากเช่นไรใช่มั๊ย
         คุณอาจคิดว่าตัวเองฝันไปรึเปล่า ไม่หรอกค่ะ ทุกฝันเป็นจริงได้ หากคุณทราบและปฏิบัติตามขั้นตอน ที่ถูกต้อง เพียงคุณทดลองขั้นตอนง่ายๆที่ลังโคมแนะนำข้างล่างนี้ ก็สามารถสร้างสรรค์ผิวงาม ชวนหลงใหลอวดใครๆ ได้เหมือนกัน

          ขั้นตอนแรก : เลือกสีสันของพื้นที่เหมาะกับคุณ          ขั้นตอนต่อมา : เข้าใจวิธีการลงรองพื้นที่ถูกต้อง          ขั้นตอนสุดท้าย : เลือกแต่งเติมสีสันด้วยแป้งฝุ่นและบลัชออน
  ขั้นที่1 : 
          รองพื้นที่ดีและเหมาะสมสำหรับผิว จะช่วยให้การแต่งหน้าของคุณดูสมบูรณ์แบบที่สุด โดยช่วยให้ผิวของคุณเรียบนวลเนียนสีสวยสม่ำเสมอ ดุจผิวในจินตนาการ การรองพื้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความงามของผิว ให้ดูสวยใสราวกับไม่ได้แต่งแต้มอะไร และใช้สีที่ดูกลมกลืนใกล้เคียงกับสีผิวจริงของคุณมากที่สุด คุณควรจำไว้เสมอว่า ควรเลือกใช้สีที่อ่อนกว่าโทนสีผิวของคุณสักเล็กน้อย เพื่อให้ผิวหน้าแลดูสว่างสดใสขึ้น

  ขั้นที่2 : 
        ไม่ว่าคุณจะใช้รองพื้นแบบครีมหรือแบบแป้งผสมรองพื้น มีกฎสำคัญ 2 ข้อที่พึงกระทำตามคือ :
       1. ลูบไล้รองพื้นบนใบหน้าโดยเริ่มจากกึ่งกลางของใบหน้าออกไปยังด้านข้างเสมอ
       2. ใส่ใจเป็นพิเศษในบริเวณที่มีมิติต้องการเน้นหรือลดบนใบหน้า เช่นหน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม ขากรรไกร และคาง ซึ่งเนื้อรองพื้นมักจะหนาเกินไปได้ง่ายถ้าไม่ระวังเกลี่ยให้บางสม่ำเสมอพอ เพียง

        ทีนี้ก็มาถึงวิธีลงรองพื้นแบบต่างๆเพื่อผิวสวยนวลเนียนตลอดวัน
      ครีมรองพื้นเนื้อบางเบา         ลักษณะ : เนื้อครีมเกลี่ยให้เรียบเนียนได้ง่ายและติดทนนาน
         วิธีใช้ : แตะแต้มหยดรองพื้นลงบนบริเวณกึ่งกลางใบหน้า และบนโหนกแก้มทั้งสองข้าง แล้ว ลูบไล้เกลี่ยให้เนียนเรียบทั่วบนใบหน้า จะทำให้รองพื้นติดทนนานขึ้น คุณควรระลึกไว้ว่าการเริ่มรองพื้น จากส่วนที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดบนใบหน้าก่อน เป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะมันเป็นจุดที่คุณเกิดร่องรอยที่ไม่พึงปรารถนาได้มากที่สุด จึงต้องการการปกปิดที่อำพรางได้แนบเนียน

      ครีมรองพื้นปราศจากน้ำมัน         ลักษณะ : เนื้อครีมบางเบาประกอบด้วยน้ำมันระเหยเพื่อสร้างความเบาสบายแก่ผิว
         วิธีใช้ : เริ่มบริเวณหน้าผากแล้วค่อยลูบไล้ลงมายังกึ่งกลางใบหน้า จบด้วยบริเวณคางแล้วไล้วนขึ้นไปยังบริเวณขากรรไกร คุณควรระลึกไว้ด้วยว่ารองพื้นชนิดนี้มักแห้งเร็ว ดังนั้นคุณควรรีบเกลี่ยให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นสีผิวอาจดูไม่เรียบเนียนได้ ควรใช้ปริมาณพอเหมาะหยดลงบนฝ่ามือ (ใช้ปั๊มสำหรับ Teint Idole และใช้ปลายนิ้วสำหรับ Eau de Teint)

      แป้งผสมรองพื้น         ลักษณะ : เนื้อแป้งกึ่งครีมนุ่มนวลมีน้ำหนัก ใช้ร่วมกับฟองน้ำ เพื่อการปกปิดแนบเนียน
         วิธีใช้ : เริ่มจากด้านล่างของใบหน้าแล้วเกลี่ยขึ้นสู่ด้านบน ใช้ฟองน้ำอีกด้าน เกลี่ยวนให้เรียบเนียนสม่ำเสมอทั่วใบหน้า จะใช้ฟองน้ำแบบแห้ง เพื่อให้แลดูบางเบาเหมือนการใช้แป้ง หรือเลือกใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเปียกหมาดๆ เพื่อให้ดูเนียนสนิทดั่งรองพื้นก็ได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างฟองน้ำให้สะอาด และตากให้แห้งทุกครั้ง

  ขั้นตอนสุดท้าย เลือกแต่งเติมสีสันด้วยแป้งฝุ่นและบลัชออน หลังจากเสร็จสิ้นการลงรองพื้น ก็ถึงเวลาของการเติมแป้ง และปัดแก้มให้แลดูเปล่งปลั่งสดใส

      แป้งฝุ่น         เพื่อให้แน่ใจได้ว่าผิวหน้านวลเนียนแลดูงดงามที่สุด จงอย่าใช้สีแป้งใกล้เคียงกับสีของรองพื้นมากนัก เลือกใช้แป้งสีอ่อนบางกว่าเพื่อเผยผิวหน้าสว่างไสวนวลเนียน หรือใช้แป้งสีเข้มกว่าเพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นนุ่มนวล ไม่ว่าคุณจะเลือกทาแบบใด พึงจำไว้ว่าแป้งฝุ่นจะช่วยให้ผิวดูนวลเนียน และทำให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานมากขึ้น เพื่อเพิ่มความนวลเนียนไร้ประกายมันใช้ Maquifinish หรือเพิ่มความสดใสเปล่งปลั่งใช้ Pondre Majeur ทั้งแบบแป้งฝุ่นและแป้งฝุ่นอัดแข็ง ทั้งสองชนิดให้ใช้พัฟหรือแปรงแต่งหน้าลูบไล้ จากบริเวณกลางใบหน้าไปยังด้านข้าง ปัดไล้แปรงให้ทั่วใบหน้าอีกครั้งด้วยแปรงขนาดใหญ่ หากคุณต้องการเพิ่มความสดใสเปล่งปลั่งใช้ Poudre Blanc Neige ลูบไล้ทั่วใบหน้าเน้นบริเวณที่ต้องการให้เด่นขึ้น (กึ่งกลางใบหน้า สันจมูก หน้าผาก โหนกแก้ม ใต้คิ้ว) โดยใช้แปรงปัดเบาๆเป็นวง

      บลัชออน          หลังจากใช้แป้งเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเติมสีสันลงบนพวงแก้ม คุณสามารถเลือกใช้บลัชออนได้จากหลายรูปแบบ โดยเลือกตามผลลัพธ์ที่ต้องการให้เป็น สำหรับบลัชออนสีฝุ่น ทั้งแบบเพิ่มประกายหรือแบบนวลเนียนเป็นธรรมชาติใช้ Blush Subtile ถ้าคุณชอบแบบมีสีสันอ่อนบางมันระยับ ใช้ Pommette ตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยใช่มั๊ยคะ ถ้าอย่างนั้นลองใช้ Blush Duo ที่มีสีสองเนื้อให้คุณเลือกใช้แต่ละแบบ หรือจะผสมสร้างความกลมกลืนให้สีสันได้ดั่งใจ สำหรับคุณที่ต้องการให้แก้มแลดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ปัดแก้มในทิศทางไปและกลับเบา ๆ จากบริเวณหว่างคิ้วไล้ลงไปจนถึงโหนกแก้ม หากต้องการเพิ่มสีสันให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ให้ลูบไล้ลงบนกึ่งกลางโหนกแก้มระหว่างที่คุณยิ้มเล็กน้อย แล้วเกลี่ยไล่สีให้เบาบางลงไปตามสองข้างแก้ม แล้งปัดฝุ่นไล้ทับอีกครั้งเพื่อให้สีสันติดทนนาน.

ขอบคุณที่มานะค่ะ : http://women.thaiza.com

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กาแฟผสมกับเหล้ากายเป็นยาวิเศษ


หลังจากหายหน้าหายตาไปเนินนานไม่ได้มาเขียนบอกอีกเลยเป็นนานสองนาน
เนื่องจากไปทำงานออกแบบที่เร่งด่วนให้เขา
วันนี้มาคุยกันเรื่องกาแฟอีกดีกว่า


ได้ยาวิเศษสามารถช่วยป้องกันสมองไม่ให้เสียหาย หลังจากเส้นเลือดในสมองตีบได้อย่างมาก เป็นยาที่ทำจากกาแฟผสมกับเหล้า มีฤทธิ์เท่ากับซดกาแฟแก่ๆ ผสมเหล้าเข้าไป 2 ถ้วยซ้อน
 
นักวิจัยของโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยเท็กซัส ฮิวส์ตัน เปิดเผยว่า ยาขนานใหม่ที่พบ เป็นส่วนผสมของกาแฟกับเอทานอล อันเป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณช่วยลดความสูญเสีย ของสมองจากการเป็นอัมพาตเนื่องมาจาก เส้นเลือดสมองตีบลงได้อย่างมาก โดยได้ทดลองใช้รักษาฉีดให้กับคนไข้ อัมพาตทั้งชายหญิงที่อยู่ในวัยอายุเฉลี่ย 71 ปี ไปจำนวน 23 ราย
 
ศาสตราจารย์มาร์ติน บราวน์ กล่าวแจ้งว่า ในการทดลองกับหนู โดยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองของมัน ขาดลงแบบเดียวกับเมื่อเกิดเป็นอัมพาตเนื่อง มาจากเส้นเลือดสมองตีบในคน เมื่อให้ยาภายในเวลาเกิดอาการใน 3 ชม. ปรากฏว่ายาช่วยลดความสูญเสียของสมองของมันได้มากถึง 80% และจะได้ทำการศึกษาวิจัยต่อไป เพื่อจะได้รู้สรรพคุณของมันในการรักษากับคนมากขึ้น "แต่พบแล้วว่า หากให้กาแฟหรือแอลกอฮอล์โดดๆ อย่างเดียว กลับไม่ได้ผลอย่างใด จะต้องผสมกันจึงจะได้ผล ซึ่งก็จะต้องค้นคว้าหาส่วนผสมที่เหมาะสมต่อไป"
 
เขากล่าวต่อไปว่า ยังอาจไม่ทราบสาเหตุว่ามันมีสรรพคุณรักษาขึ้นอย่างไร แต่ตัวแอลกอฮอล์เองก็มี สรรพคุณทางขยายหลอดเลือดอยู่แล้ว และคาเฟอีนก็มีสรรพคุณช่วยให้อาการของไมเกรนทุเลาลงได้ เพราะมันช่วยให้ เลือดไหลเวียนดีขึ้น นอกจากนี้ มันยังเป็นยาที่ปลอดภัย เพราะก็เห็นกันอยู่ เป็นยาที่เกือบจะทุกคนใช้กันอยู่แล้ว.
 
ขอบคุณที่มาของความรู้ : http://www.samunpai.com/

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ต้นไม้มงคล ราศีปีเกิด เสริมชะตาชีวิตทั้ง 12 ราศี

พอดีวันนี้ต้องทำงานเกี่ยวกับพวกนี้เลยเอามาให้ดูกัน

มนุษย์มีความเชื่อที่ผูกพันกับต้นไม้มาเป็นเวลาช้านาน เช่น เรื่องต้นไม้มงคล ต้นไม้ต้องห้าม ต้นไม้ที่ปลูกแล้วมีรัก หรือปลูกแล้วไร้รัก เป็นต้น จนถึงปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ วันนี้ บ้านไอเดีย มีความเชื่อเกี่ยวกับ ต้นไม้มงคลกับราศีเกิด มาฝากกันค่ะ ราศีไหน ปลูกต้นอะไรแล้วจะเสริมชะตาชีวิตให้ดีขึ้นบ้าง
  • ราศีมังกร  (16 ม.ค.–15 ก.พ.) ไม้มงคล คือ วาสนา โป๊ยเซียน แก้ว  กุหลาบ ไผ่ ราชพฤกษ์ และจำปีทำให้เงินทองไหลมาเทมา มีโชค มีลาภ ส่งเสริมบุญญาบารมี วาสนา มีความมั่นคงในชีวิต กิจการเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า มีความอดทนอดกลั้น ควรปลูกข้าง หรือหลังบ้าน แต่ห้ามปลูกบริเวณหน้าบ้าน เพราะเป็นบริเวณของปากมังกร
  • ราศีกุมภ์  (16 ก.พ.-15 มี.ค.)  ไม้มงคล คือ เฟื่องฟ้า และบอนไซ จะช่วยส่งเสริมพลังทางด้านความคิด กิจการก้าวหน้ามั่นคง ชีวิตเจริญรุ่งเรือง มีความสามารถในการปรับตัว อดทนต่ออุปสรรค ปัญหา และทำให้มีอายุยืนยาว
  • ราศีมีน  (16 มี.ค.–15 เม.ย.)  ไม้มงคล คือ กล้วยไม้ วาสนา และเฟื่องฟ้า  ช่วยให้มีอุปนิสัยเยือกเย็น อ่อนโยน เป็นที่ประทับใจต่อผู้พบเห็น คนในครอบครัวมีศีลธรรม มีชีวิตที่สดใส เบิกบาน รุ่งเรือง มีโชคลาภวาสนา
  • ราศีเมษ  (16 เม.ย.–15 พ.ค.) ไม้มงคล คือ ต้นมะยม มะขาม ช่วยให้มีความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน เป็นที่นับถือ เกรงขาม ผู้คนให้ความนิยมชมชอบ
  • ราศีพฤษภ  (16 พ.ค.–15 มิ.ย.) ไม้มงคล คือ ต้นโมก  ช่วยปกปักรักษาให้มีความปลอดภัย  ป้องกัน ขับไล่สิ่งไม่ดี ให้ออกไปจากชีวิต ทำให้มีความสุข สดใส  ควรปลูกในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน และปลูกในวันเสาร์
  • ราศีเมถุน  (16 มิ.ย.-15 ก.ค.) ไม้มงคล คือ ทับทิม โป๊ยเซียน กุหลาบ และโมก ช่วยให้ชีวิตมีความสงบ ร่มเย็น อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีอุปสรรคมากล้ำกลาย มีโชคลาภ
  • ราศีกรกฎ  (16 ก.ค.–15 ส.ค.) ไม้มงคล คือ ชมพู่ พลูด่าง กล้วยไม้ และวาสนา ทำให้มั่งมีทรัพย์สิน เงินทอง มีความสุข ความสมหวัง ครอบครัวร่มเย็น เป็นสุข  ชีวิตสดใส เบิกบาน
  • ราศีสิงห์  (16 ส.ค.–15 ก.ย.) ไม้มงคล คือ ขนุน จำปี โป๊ยเซียน กล้วยไม้  ช่วยให้มีคนสนับสนุน ให้ความอุปการะ  อุดหนุนจุนเจือ เสริมบุญบารมี การงาน กิจการสดใส รุ่งเรือง ก้าวหน้า ปราศจากปัญหาและอุปสรรค
  • ราศีกันย์  (16 ก.ย.–15 ต.ค.) ไม้มงคล คือ สนฉัตร ราชพฤกษ์ และต้นขนุน มีความสง่างาม มีเกียรติ มีศักดิ์ มีศรี บุญบารมี ผู้คนนับหน้าถือตา  ร่ำรวยเงินทอง
  • ราศีตุลย์ (16 ต.ค.–15 พ.ย.) ไม้มงคล คือ ต้นโกสน หมากแดง ปาล์ม ช่วยคุ้มครอง ป้องภัย ปกปักรักษา ให้อยู่ดีมีสุข ช่วยเสริมบารมี การงานก้าวหน้า มีความเจริญรุ่งเรือง
  • ราศีพิจิก (16 พ.ย.–15 ธ.ค.) ไม้มงคล คือ พวงแสด เบญจมาศ ว่านสี่ทิศ  ทำให้ชีวิตมีความสว่างไสว รุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า มีความมั่นคง แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้คนให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ
  • ราศีธนู ( 16 ธ.ค.–15 ม.ค.) ไม้มงคล คือ บัว เฟิร์นข้าหลวง  แก้ว  ทำให้จิตใจบริสุทธ์ เบิกบาน คนในครอบครัวมีความรัก ความผูกพันกัน มีชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นที่รักใคร่ ช่วยขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆให้ออกไปจากชีวิต
การจะทำให้ชีวิตมีความสุข สว่างไสว รุ่งเรืองนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใคร หรือสิ่งใดจะมาดลบันดาลให้กันได้ง่ายๆ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต การกระทำของตัวเอง กระทำอย่างไร ได้ผลอย่างนั้น  อย่างพระพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “กมฺมุนา วตฺตตีโลโก   สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”

ที่มา : http://www.banidea.com/

20 ประโยชน์จากการดื่มกาแฟ


 คือเราก็เปิดร้านกาแฟอยู่แล้วเลยมาดูกันว่าประโยชน์ของกาแฟมีอะไรบาง

1.    ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในผู้หญิง 25%
งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยของสเปนพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 2 – 3 แก้วต่อวันมีอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มและผู้ชาย 25%
2.    ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน 60%
กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสารประกอบที่เรียกว่า ควินิน (Quinines) ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น
3.    ลดอัตราการเกิดภาวะความจำเสื่อม 65%
จาก การวิจัยพบว่ากาแฟมีส่วนช่วยในการชะลอภาวะความจำเสื่อมโดยไปหยุดยั้งหรือ ต้านการจับตัวของคอเรสเตอรอล (Cholesterol) ที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย
4.    ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ 50%
จาก การศึกษาถึง 12 ปีกับผู้หญิงในญี่ปุ่นพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 3 แก้วหรือมากกว่าต่อวันมีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำ ไส้ใหญ่
5.    ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
จากการ ศึกษากับผู้ชายจำนวน 50,000 คนเป็นเวลา 20 ปีพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวันจะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนที่ไม่ ได้ดื่ม
6.    ลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ (Alzheimer) 65%
จากการศึกษากับคนวัยกลางคนในประเทศฟินแลนด์จำนวน 1,400 พบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 5 ถ้วยต่อวันสามารถลดอัตราเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ 65%
7.    ลดความเสี่ยงของการเป็นตับแข็ง 80%
จาก การศึกษากับผู้ดื่มกาแฟจำนวน 125,000 คนพบว่าการดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวันทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นตับแข็งลดลง 20% ถ้าดื่ม 4 แก้วต่อวันจะลดอัตราเสี่ยงได้ 80%
8.    ลดความเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 50%
ผู้ชาย ที่ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้วต่อวันมีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 40%, 25% สำหรับผู้หญิงที่ดื่มกาแฟในปริมาณที่เท่ากัน และ 45% สำหรับคนที่ดื่มมากกว่า 4 แก้วต่อวัน
9.    ลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดในผู้หญิง 43%
จาก การศึกษากับนางพยาบาลจำนวน 83,000 คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่และดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวันสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือด 43%
10.     ลดความเสี่ยงของการเกิดอาการสั่นของอวัยวะจากระบบปราสาท
11.     ลดอัตราเสี่ยงในการฆ่าตัวตายของผู้หญิง 60%
จากการศึกษาเป็นเวลา 10 ปีกับผู้หญิงจำนวน 86,000 คนพบว่าผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวันสามารถลดอัตราเสี่ยงในการฆ่าตัวตายของ 60%
12.     กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยซ่อมแซมเซลต่างๆในร่างกายที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
13.     กาแฟช่วยให้เรารู้สึกไม่ง่วงและตื่นตัว
14.     กาแฟช่วยลดความรู้สึกหนาวได้เนื่องจากคาเฟอีน (caffeine)
15.     ลดการเกิดโรคหืด
16.     ลดอาการปวดหัว บ่อยครั้งที่คาเฟอีน (caffeine) ถูกใช้เป็นยาแก้ปวดหัวโดยเฉพาะอาการปวดหัวจากไมเกรน (migraine)
17.     บรรเทาอาการปวด การดื่มกาแฟ 2 แก้วอาจช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายได้ประมาณ 58% ยาแก้ปวดหลายประเภทมีการผสมคาเฟอีน (caffeine) 65 mg เช่น aspirin, ibuprofen, acetaminophen และคาเฟอีน (caffeine) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ 40%
18.     ช่วยทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น คาเฟอีน (caffeine) ที่ดื่มเข้าไปจะช่วยคลายความเครียดและทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น
19.     ช่วยให้ความสามารถทางการกีฬาสูงขึ้น เพราะคาเฟอีน (caffeine) มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ
20.     ป้องกันฟันผุ สารประกอบที่มีชื่อว่า Trigonelline ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมและรสขม มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันแบคทีเรีย และการก่อตัวของแบคทีเรีย โดยเหตุผลนี้กาแฟจึงช่วยป้องกันฟันผุได้
coffeebenefit-thumbถึง แม้ว่ากาแฟจะมีสารที่มีประโยชน์มากมายแต่สารประกอบบางอย่างที่อยู่ในกาแฟอาจ ส่งผลกับแต่ละคนต่างกัน ดังนั้นถ้าเกิดเรามีปัญหาท้องเสียกับการดื่มกาแฟ หรืออาการอื่นๆ ก็สามารถดื่มชาแทนได้

ที่มา :-coffeeandtealover.com,www.oknation.net